นายกริชเพชร ชัยช่วย ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยว่า เสนอขอรับจัดสรรงบประมาณปี 67 จำนวน360ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาท่าเรือเชื่อมโยงภาคใต้ฝั่งอันดามัน(ภูเก็ต กระบี่ และพังงา)หรือวงแหวนแห่งอันดามัน สนับสนุนการท่องเที่ยวบริเวณอ่าวพังงา จำนวน 2 ท่าเรือ โดยได้สำรวจและออกแบบแล้วเสร็จ ผ่านความเห็นชอบคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม จ.พังงาแล้ว หากได้รับงบประมาณ 67 กรมเจ้าท่าจะจัดซื้อจัดจ้างหาตัวผู้รับจ้างก่อนสิ้นปีงบ 67 หรือภายในวันที่ 30 ก.ย.67 เพื่อก่อสร้างในปี 67 แล้วเสร็จในปี 69(งบผูกพัน 3 ปี คือ ปี 67-69)ระยะเวลา 900 วัน

สำหรับท่าเรือ 2 แห่ง ได้แก่ 1.งานปรับปรุงท่าเรือมาเนาะห์ เกาะยาวน้อย จ.พังงา ค่าก่อสร้าง 175 ล้านบาท โดยจะปรับปรุงท่าเรือเดิมให้มีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย อาคารบริการ-ที่พักนักท่องเที่ยว ท่าเทียบเรือรองรับเรือบรรทุกสินค้า และผู้โดยสาร ท่าเทียบเรือรองรับเรือเร็วและเรือหางยาว พื้นที่จอดเรือ และพื้นที่ลานจอดรถยนต์และจักรยานยนต์(จยย.)เมื่อแล้วเสร็จทำให้มีท่าเทียบเรือจอดพักคอยเรือโดยสาร 10 ลำ และรองรับนักท่องเที่ยวได้ 820 คนต่อวัน หรือ 137 คนต่อชั่วโมง

และ 2.งานปรับปรุงท่าเรือช่องหลาด เกาะยาวใหญ่ จ.พังงา ค่าก่อสร้าง 185 ล้านบาท โดยจะปรับปรุงท่าเรือเดิมให้มีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย อาคารบริการ-ที่พักนักท่องเที่ยว ท่าเทียบเรือรองรับเรือบรรทุกสินค้า และผู้โดยสาร ท่าเทียบเรือรองรับเรือเร็วและเรือหางยาว พื้นที่จอดเรือ และพื้นที่ลานจอดรถยนต์และ จยย. เมื่อแล้วเสร็จจะรองรับนักท่องเที่ยวได้ 1,059คนต่อวัน หรือ177คนต่อชั่วโมง

นายกริชเพชร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้เตรียมแผนดำเนินโครงการพัฒนาท่าเรือเชื่อมโยงภาคใต้ฝั่งอันดามัน สนับสนุนการท่องเที่ยวบริเวณอ่าวพังงาเกิดความต่อเนื่อง เตรียมของบประมาณในปี 68 จำนวน 375 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างปรับปรุงท่าเทียบเรือเฟอร์รี่ ต้นทางท่าเทียบเรืออ่าวปอ จ.ภูเก็ต และ ปลายทาง ท่าเทียบเรือท่าเลน จ.กระบี่ จำนวน 2 ท่าเรือดังนี้

1.งานก่อสร้างท่าเทียบเรือต้นทาง ท่าเทียบเรืออ่าวปอ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต(ท่าเทียบเรือเฟอร์รี่ ต้นทาง-ปลายทาง ภูเก็ต-กระบี่)ค่าก่อสร้าง 260 ล้านบาท สำรวจและออกแบบเสร็จแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาเห็นชอบคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม จ.ภูเก็ต คาดจะเห็นชอบต้นปี 67 หากได้รับงบประมาณ 68 จะจัดซื้อจัดจ้างหาตัวผู้รับจ้างก่อนปีงบ 68 ก่อสร้างในปี 68 แล้วเสร็จในปี 70(งบผูกพัน 3 ปี ปี 68-70)ระยะเวลา 900 วัน

โครงการประกอบด้วย เรือที่มาใช้บริการท่าเทียบเรือต้นทางและปลายทาง เรือเฟอร์รี่บรรทุกยานพาหนะได้ไม่น้อยกว่า 60 คัน บรรทุกผู้โดยสารได้ไม่น้อยกว่า 200 ที่นั่ง มีแรมป์ขึ้น-ลงเรือ ท่าเทียบเรือดเฟอร์รี่ 1 ท่า ก่อสร้างอาคารบริการและที่พักคอยผู้โดยสาร พื้นที่ลานจอดรถ 60 คัน มีสะพานท่าเทียบเรือยาว 500 เมตร ความกว้างสะพาน 13.2 เมตร อาคารพักคอยผู้โดยสารบริเวณปลายท่า 1 หลัง ท่าเทียบเรือตรวจการณ์ 1 ท่า

เมื่อแล้วเสร็จทำให้รองรับเรือเฟอร์รี่ขนาดไม่เกิน 500 ตันกรอส กินน้ำลึก 2 เมตร ซึ่งเรือกินน้ำลึก 2 เมตร สามารถจอดเทียบท่าได้ตลอดเวลา รองรับผู้โดยสาร 573 คนต่อวัน รองรับรถยนต์ 1,275คันต่อวัน และมีท่าเทียบเรือตรวจการณ์ 1 ท่าคำพูดจาก เกมสล็อตออนไลน์

นายกริชเพชร กล่าวอีกว่า 2.งานก่อสร้างท่าเทียบเรือปลายทาง ท่าเทียบเรือท่าเลน อ.เมือง จ.กระบี่(ท่าเทียบเรือเฟอร์รี่ ต้นทาง-ปลายทาง ภูเก็ต-กระบี่)ค่าก่อสร้าง 115 ล้านบาท สำรวจและออกแบบแล้วเสร็จ ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม จ.กระบี่ แล้ว หากได้รับงบปี 68 จะจัดซื้อจัดจ้างหาตัวผู้รับจ้างก่อนปีงบ 68 ก่อสร้างในปี 68 แล้วเสร็จในปี 69(งบผูกพัน 2 ปี ปี 68-70)ระยะเวลา 540 วันคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

รายละเอียดโครงการ ประกอบด้วย เรือที่มาใช้บริการท่าเทียบเรือต้นทางและปลายทาง เรือเฟอร์รี่บรรทุกยานพาหนะได้ไม่น้อยกว่า 60 คัน บรรทุกผู้โดยสารได้ไม่น้อยกว่า 200 ที่นั่ง ท่าเทียบเรือเฟอร์รี่ สะพานท่าเทียบเรือปรับระดับ จำนวน 1 ท่า งานปรับปรุงท่าเทียบเรือเดิมเป็นท่าเทียบเรือหางยาวและเรือเร็ว 1 ท่า จอดพร้อมกัน 2 ลำ งานก่อสร้างอาคารบริการและพักคอยผู้โดยสาร พื้นที่ลานจอดรถ 60 คัน พื้นที่จอดเรือโดยสาร 10 ลำ

เมื่อแล้วเสร็จรองรับเรือเฟอร์รี่ขนาดไม่เกิน 500 ตันกรอส กินน้ำลึก 2 เมตร รองรับเรือเร็วและเรือหางยาวพร้อมกัน 2 ลำ เรือกินน้ำลึก 2 เมตร สามารถจอดเทียบท่าได้ตลอดเวลา รองรับผู้โดยสาร 573 คนต่อวัน รองรับรถยนต์ 1,275คันต่อวัน

สำหรับการพัฒนาเส้นทางเดินเรือวงแหวนแห่งอันดามัน มีต้นทางที่ท่าเรือที่ 1 ท่าเรือท่าเลน ต.เขาทอง อ.เมือง จ.กระบี่ ต่อไปยังท่าเรือที่ 2 ท่าเรือมาเนาะห์ ต.เกาะยาวน้อย อ.เกาะยาว จ.พังงา ต่อไปยังท่าเรือที่ 3 ท่าเรือช่องหลาด ต.เกาะยาวใหญ่ อ.เกาะยาว จ.พังงา และปลายทางที่ท่าเรือที่ 4 ท่าเรืออ่าวปอ ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เมื่อวงแหวนแห่งอันดามันแล้วเสร็จจะช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรทางถนน และความแออัดของสนามบิน โดยเฉพาะสนามบินภูเก็ต รวมทั้งลดระยะเวลาเดินทาง อำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว จากเดิมถ้าเดินทางทางถนนจาก จ.กระบี่ มายัง จ.ภูเก็ต ระยะทาง 165 กม. ใช้เวลา 3 ชั่วโมง 30 นาที แต่หากเดินทางทางเรือระยะทาง 41 กม. ใช้เวลา 50 นาที