รายงานข่าวจากองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) แจ้งว่า หลังจากที่มีการเปิดภาคเรียนปีการศึกษา 66 ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค. 66-ปัจจุบันพบว่า ผู้โดยสารใช้บริการรถโดยสารประจำทาง (รถเมล์) อย่างต่อเนื่อง ประมาณ 680,000-700,000 คนต่อวัน มีรายได้มากกว่า 8,500,000 บาทต่อวัน ซึ่งเมื่อเทียบกับก่อนที่จะเปิดเทอม ช่วงต้นเดือน พ.ค. 66 ผู้โดยสารใช้บริการประมาณ 650,000 คนต่อวัน มีรายได้ 8,200,000 บาทต่อวัน ทำให้ผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 30,000-50,000 คนต่อวัน มีรายได้เพิ่มขึ้น 300,000 บาทต่อวัน

ส่วนหนึ่งมาจากการเดินทางของนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง โดยเฉพาะความต้องการในการเดินทางจะหนาแน่น ช่วงเร่งด่วนเช้า เวลา 05.30-09.00 นคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. ซึ่งเป็นช่วงที่เดินทางไปโรงเรียน และเดินทางไปทำงาน ขสมก. กำหนดความถี่ในการเดินรถ 5-7 นาทีต่อคัน และช่วงเร่งด่วนเย็น เวลา 15.30-19.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่เด็กนักเรียนเลิกโรงเรียน และประชาชนเลิกงาน มีความถี่ให้บริการ 7-10 นาทีต่อคัน และสามารถปรับความถี่ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้โดยสารมากที่สุด เพื่อลดปัญหารอคอยรถเมล์นาน

ส่วนจำนวนรถเมล์ที่ให้บริการในปัจจุบันมี 2,885 คัน ยังสามารถรองรับจำนวนผู้โดยสารได้เพียงพอ และเป็นไปตามแผนของ ขสมก. ในการเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกช่วงเปิดเทอม รวมทั้งกำชับพนักงานขับรถเมล์ พนักงานเก็บค่าโดยสาร ให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด และขับรถด้วยความระมัดระวัง นอกจากนี้ให้ตรวจเช็กสภาพ และตรวจสอบการซ่อมบำรุงอุปกรณ์ส่วนควบต่าง ๆ ของรถเมล์ให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ดี รวมถึงการดูแลความสะอาดภายในรถ ก่อนนำรถออกวิ่งให้บริการ

ทั้งนี้ ได้ดำเนินการจัดรถสายตรวจ พนักงานนายตรวจของเขตการเดินรถทั้ง 8 เขต และเจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษ ประจำจุด ณ บริเวณหน้าโรงเรียน ป้ายหยุดรถเมล์ ที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่น และจุดที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร ดูแลการขึ้น-ลงรถของผู้ใช้บริการ และดูแลความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน